เพื่อให้ร่องของกาวปูกระเบื้องที่แผ่นกระเบื้องกดทับประสานกันอย่างทั่วถึง เว้นช่องว่างระหว่างกระเบื้องแต่ละแผ่น เพื่อให้เป็นร่องยาแนว ( อย่างน้อย 2 มิลลิเมตร ) ในกรณีที่กาวปูกระเบื้องล้นขึ้นมาที่ร่องยาแนว ควรเช็ดออกเพื่อรักษาช่องของร่องยาแนวไว้ ถ้าแผ่นกระเบื้องเลอะกาวปูกระเบื้อง ควรเช็ดออกด้วยฟองน้ำหมาดๆ ขณะที่กาวปูกระเบื้องยังเปียกอยู่ หลังจากที่ช่างปูกระเบื้องเสร็จแล้วควรทิ้งให้กาวปูกระเบื้องแห้งประมาณ 24 ชั่วโมง ก่อนการยา
ช่างปูกระเบื้อง |
1. วิธีการปูกระเบื้องแบบเปียก
การปูพื้นกระเบื้องที่ใช้วิธีการปูแบบเปียก ก็คือช่างจะเทปูนทรายปรับระดับ แล้วจึงเริ่มปูกระเบื้องโดยระวังไม่ให้เกิดโพรงอากาศระหว่างกระเบื้องกับผิวปูน ซึ่งเป็นวิธีที่กระเบื้องจะติดแน่นกับผิวพื้นได้ดี ก่อนปูกระเบื้องลักษณะนี้ต้องขึงเชือกหาแนวดิ่ง ฉากของกระเบื้องในแถวแรกเพื่อเป็นแนวในการปูแถวต่อ ๆ ไป
รับปูกระเบื้อง |
แต่เราจะ ปูกระเบื้อง แบบไหนล่ะ ถึงจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวได้ วันนี้ได้นำเอาสาระความรู้ เรื่องวิธีการปูกระเบื้องในแบบต่าง ๆ
2. วิธีการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา
การปูกระเบื้องพื้นโดยใช้วิธีการปูแบบซาลาเปานี้ วิธีการปูก็เหมือนตามชื่อ เป็นวิธีที่ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง คือช่างจะใช้ปูนพอกเป็นก้อนบนหลังแผ่นกระเบื้อง เหมือนลูกซาลาเปา แล้วนำแผ่นกระเบื้องวางบนผิวปูนหยาบ เนื้อปูนบริเวณผิวพื้นด้านล่างจะไม่เสมอ
รับปูกระเบื้อง |
3. วิธีการปูกระเบื้องแบบปูนกาว
การปูกระเบื้องพื้นโดยใช้วิธีการปูแบบปูนกาว คือการใช้เกรียงฟันร่อง ตักปูนใส่ด้านหลักระเบื้อง ฉาบเป็นร่องแล้วปาดให้ทั่วทั้งแผ่นด้วยการออกแรงกดเบาๆ ให้มีเนื้อปูนประมาณ 5 มิลลิเมตร จากนั้นนำกระเบื้องติดบนพื้นตามแนวแล้วเคาะเบาๆ ด้วยค้อนยางหรือด้ามเกรียงให้แน่นกับพื้นผิวปาดปูน ส่วนเกินออก ปูแผ่นต่อไปโดยให้ช่องห่างแนวกระเบื้องประมาณ 2-3 มม. เป็นแนวตรงไม่บิดเบี้ยว
ช่างปูกระเบื้อง |
โดยปูตามแนวของเส้นที่ที่ไว้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งก่อน แล้วค่อยปูให้เต็มพื้นที่ ควรทิ้งไว้ 1 วันก่อน ถึงสามารถเหยียบเข้าไปเก็บส่วนที่ขาดรอบห้องได้ การปูกระเบื้องในส่วนที่ไม่เต็มแผ่นจะต้องวัดส่วนที่ต้องการตัดออก ด้วยตลับเมตรว่าต้องการขนาดเท่าไร ขีดเส้นทำความเครื่องหมายก่อนนำไปตัดด้วยแท่นตัดกระเบื้อง หรือเครี่องเจียรแบบลูกหนูทดลองวางดูก่อนฉาบปูนให้มีร่องห่างกันประมาณ 2-3 มม.